ไม่มองความล้มเหลวเป็นความล้มเหลว สำหรับ Wabi-Sabi แล้ว เราไม่จำเป็นต้องชอบ "ความล้มเหลว" แต่ก็ต้องเรียนรู้ความล้มเหลวที่เกิดขึ้นเอาไว้ เพื่อที่จะได้นำมาปรับใช้กับสิ่งที่จะทำต่อไป ซึ่งหนึ่งในข้อดีของการเรียนรู้เรื่องความล้มเหลวนั้น ไม่เพียงจะทำให้ยอมรับกับสิ่งที่ล้มเหลวเท่านั้น ทว่าความล้มเหลวยังช่วยทำให้เกิดความอดทน

พลิกมุมมองใหม่อย่างที่บอกไปตอนต้นแล้วว่า Wabi -Sabi เป็นการมองความสวยงามในมุมที่ไม่ใช่ความสวยที่สมบูรณ์แบบ นั่นจึงเป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลให้เรามองเห็นมุมมองอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลาซึ่งอาจทำให้กลายเป็นนักคิดหรือนักสร้างสรรค์ที่มองเห็นผลลัพธ์ที่แตกต่างไปจากสิ่งเดิมๆ และมีความริเริ่มสร้างสรรค์มากขึ้น แม้ในวันที่เราต้องเผชิญหน้ากัดความล้มเหลว เราก็จะยังพลิกมุมมอง และมองหาช่องทางอื่น ๆ เพื่อให้ตัวของเราลุกขึ้นเดินหน้าต่อไปได้ไม่ยาก

ความหมายที่แท้จริงของ Wabi - Sabi Wabi - sabi (วะบิ - ซะบิ) เป็นคำในภาษาญี่ปุ่นที่ถูกนำมาใช้ในแง่มุมของศิลปะ สะท้อนให้เห็นถึงความงดงามของสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่มีอยู่ในตัวเอง แม้ว่าจะไม่มีความสมบูรณ์ก็ตาม โดยคำว่า Wabi-sabi เป็นคำสองคำในภาษาญี่ปุ่นที่แยกออกจากกันได้ และมีความหมายในตัวเอง โดยคำว่า Wabi(วะบิ หมายถึง การชื่นชมความงามที่ดูสมถะธรรมดา และเรียบง่าย ขณะที่คำว่า sabi (ซะบิ)หมายถึง การทำลาย หรือการเปลี่ยนผ่านในรูปแบบต่างๆ เช่น การเปลี่ยนฤดูกาล หรือความขราภาพของมนุษย์ แต่เมื่อนำสองคำมารวมกันเป็น Wabi - Sabi ก็จะได้ความหมายใหม่ซึ่งยกย่องความงามที่ไม่สมบูรณ์แบบแต่เรียบง่าย โดยไม่ต้องปรับปรุงหรือเปลี่ยนแปลงอะไรเลย

ความทรงจำดีๆ ที่ไม่มีวันลืมเลือน หนึ่งในความสุขของมนุษย์คือการมีความทรงจำดีๆ ที่จะทำให้เกิดกรอยยิ้มทุกครั้งเมื่อนึกถึงซึ่งก็ต้องยอมรับว่าการเดินทางหลาย ๆ ครั้งมักสร้างความทรงจำที่ดีเสมอ

เรียนรู้และเห็นเป้าหมายชีวิตหลาย ๆ ครั้งเราอาจจะกำลังถามตัวเองว่าจริงๆแล้วชีวิตต้องการอะไรกันแน่ กระทั่งได้ออกเดินทาง และได้พบเจอเรื่องราวใหม่ๆ ให้เรียนรู้ โดยการเรียนรู้เหล่านั้นเองจะทำให้เราค้นพบว่าเราต้องการอะไร ชอบอะไร หรือไม่ชอบอะไรจนหลาย ๆ ครั้งอาจแปลกใจกับตัวเองว่า เราสามารถทำในสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนได้อย่างไร และท้ายที่สุดแล้วเราก็จะพบเป้าหมายต่างๆตามหามานานได้เสียที